Category Archives: อินเตอร์เน็ต

ข้อกำหนดด้านเวลาสำหรับดูบอลสดของคุณ

มีผู้ที่ชื่นชอบการดูฟุตบอลอยู่มากมายที่ดูฟุตบอลออนไลน์อยู่เมื่อไม่มีโทรทัศน์ ฟุตบอลเป็นที่นิยมมากจนได้มาถึงประเทศส่วนใหญ่ของโลก ด้วยการยอมรับอย่างกว้างขวางของฟุตบอลโดยเชื้อชาติต่างๆเชื้อชาติและวัฒนธรรมฟุตบอลได้กลายเป็นกีฬาที่ชื่นชอบตลอดเวลาในโลก ดูบอลสดจากทั่วทุกมุมโลกชอบดูเกมฟุตบอลของพวกเขาทางโทรทัศน์ เกมฟุตบอลเป็นที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อพวกเขาดูสด ด้วยการถือกำเนิดขึ้นของเทคโนโลยีเกมฟุตบอลสามารถดูได้ด้วยวิธีต่างๆ โทรทัศน์ไม่ได้เป็นเพียงสื่อการดูเกมฟุตบอลอีกต่อไป ตัวเลือกในการชมการแข่งขันฟุตบอลได้กลายเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่กว้างขึ้นแม้ว่าการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ยังคงเป็นวิธีดั้งเดิมในการชมเกมฟุตบอล

ดูบอลสดกลายเป็นแหล่งที่มาของแนวโน้มใหม่

และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชั้นสูง ฟุตบอลได้รับประโยชน์อย่างมากจากการมีอยู่ของอินเทอร์เน็ต ถ่ายทอดสดฟุตบอลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ในขณะนี้ นี่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลที่มีการเข้าถึงโทรทัศน์อย่าง จำกัด เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตนี้สามารถอนุญาตฟีดวิดีโอสดจากสนามฟุตบอลได้ตรงกับจอภาพคอมพิวเตอร์ของแฟน ๆ ในปัจจุบันแนวโน้มล่าสุดเมื่อพูดถึงการดูบอลสดคือผ่านทางอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ได้นำความก้าวหน้าล่าสุดนี้และเพิ่มความสะดวกในเกมฟุตบอลดังต่อไปนี้ แฟนฟุตบอลนับล้านล้านคนทั่วโลกสามารถเข้าถึงการดูบอลสดและบริสุทธิ์ได้ในวงกว้างยิ่งขึ้น ครั้งต่อไปที่คุณต้องการดูเกมฟุตบอลไปและตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของคุณและดูฟุตบอลออนไลน์อยู่

รายการและรายการที่ดีที่สุดในการรับชมรายการโทรทัศน์คือกิจกรรมถ่ายทอดสดที่นำคุณสู่ขั้นตอนการดำเนินการอย่างที่เกิดขึ้น ดูบอลสดทำให้คุณเป็นเพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น แต่ยังเป็นพยานให้กับประวัติศาสตร์ในขณะที่มันแผ่ออกไป กีฬาการแสดงคอนเสิร์ตการแข่งขันข่าวสารและกิจกรรมอื่น ๆ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการชมพร้อมกับส่วนที่เหลือของโลก ตอนนี้คุณสามารถเข้าสู่ความหนาของการกระทำผ่านทางคอมพิวเตอร์ของคุณ

ไม่ว่าคุณจะเลือกดูบอลสดทีมฟุตบอลที่คุณชื่นชอบ

หรือเพลิดเพลินกับทัวร์คอนเสิร์ตล่าสุดของวงที่คุณชื่นชอบขณะนี้คุณสามารถดูโทรทัศน์ออนไลน์ได้จากคอมพิวเตอร์ของคุณไม่ใช่เฉพาะในทีวีเท่านั้น เพื่อให้สามารถดูทีวีออนไลน์ได้ในคอมพิวเตอร์ของคุณนี่คืออุปกรณ์พื้นฐานบางอย่างที่คุณต้องการ คอมพิวเตอร์ของคุณควรมีซอฟต์แวร์ที่เข้ากันได้เช่นเครื่องเล่นมัลติมีเดีย ซอฟต์แวร์พื้นฐานที่สุดอาจรวมถึงเครื่องเล่นสื่อและตัวแปลงสัญญาณที่จะช่วยให้คุณสามารถดูเนื้อหาทางทีวีได้อย่างลงตัว  นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์ที่คุณสามารถดาวน์โหลดได้จากอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้คุณสามารถรับชมรายการดูฟุตบอลสดออนไลน์โดยตรงผ่านทางเบราเซอร์ของคุณได้อีกด้วย มีเว็บไซต์มากมายที่ให้บริการเนื้อหาทางทีวีที่คุณสามารถรับชมได้ตลอดเวลา สถานีโทรทัศน์ชั้นนำส่วนใหญ่มักนำเสนอวิดีโอคลิปของรายการทีวีบนเว็บไซต์ของตนพร้อมตัวเลือกในการสมัครรับข้อมูลทีวีเพิ่มเติม สนใจ http://www.doballsodhd.com/
 

มารู้จักม้าพันธุ์ลิปิซานเนอร์กันเถอะ

ม้าสายพันธุ์ลิปิซาน เนอร์ได้ถูกเพาะเลี้ยงที่เมืองลิปีซาน แห่งแคว้นคาร์เทจ เมื่อกว่า 2000 ปีมาแล้ว โดยม้าพันธุ์นี้มีสายเลือดที่สืบเชื้อสายมาจากม้าพันธุ์อาหรับและบาร์บของสเปน ซึ่งเป็นม้าต้นตำหรับของสายพันธุ์อัลดาลูเชียนที่ยิ่งใหญ่ของสเปน ถัดมาในยุคแขกมัวร์ครองอำนาจเหนือสเปน ก็ยังคงมีการนำอาหรับมาผสมอยู่บ้างประปราย และช่วงนี้ชาวสเปนที่อยู่ภายใต้การปกครองของแขกมัวร์ได้ส่งม้าออกไปยังอิตาลี และที่เมืองเฟ็ดเดอริสเบอร์กประเทศเดนมาร์ก และที่อิตาลีก็ได้กำเนิดลิปิซานเนอร์ตัวเก่งต้นตระกูล นีอาโพลิตัน ที่โด่งดังไปทั่วยุโรป
ลักษณะเด่นของม้าพันธุ์ลิปิซานมีดังนี้
1.แรกเกิดสีดำ หรือออกเทาๆ โตขึ้นสีจางลงและเปลี่ยนเป็นขาวในที่สุด หางและขนแผงคอสีขาว
2.หูเล็ก ตากลมโต คอสั้นหนา รูปร่างกำยำล่ำสัน เป็นมิตรกับคนง่าย ตัวผู้สูง 155-160 ซม. ตัวเมียสูงประมาณ 140-150 ซม.
3.กีบแข็งแรงทนทาน มีสีขาวหรือดำ ไม่ค่อยพบปัญหาเรื่องโรคกีบ
4.ใช้เป็นม้าโชว์ ม้าขี่เล่น ม้าสวยงาม
5.ม้าที่มีสายเลือดลิปิซานเนอร์แต่ไม่ใช่ Pure Breds จะเรียกว่า Part Breds, Part Lipizzaners
6.เป็นม้าที่เป็นหนุ่มเป็นสาวช้ากว่าม้าสายอื่นๆ ที่โดยปกติจะใช้เวลา 3 ปี แต่ลิปิซานเนอร์จะใช้เวลา 4- 5 ปี จึงจะเริ่มเป็นหนุ่มหรือสาว เนื่องจากโครงสร้างใหญ่กว่าม้าปกติ
สำหรับม้าลิปิซานเนอร์มีเอกลักษณ์อีกอย่างที่สังเกตุเห็นได้โดยง่ายคือ การมีสันจมูกโค้งลงหาพื้นดิน กลับทางกับม้าสายอาหรับที่มีสันจมูกเชิดงอนขึ้น และเนื่องจากม้าพันธุ์นี้ทั่วโลกมีเหลือแค่ประมาณ 3,000 ตัว จึงได้ขึ้นทะเบียนไซเตสเป็นสัตว์อนุรักษ์ไว้ สำหรับในเมืองไทย หากใครต้องการผสมพันธุ์ก็สามารถหาพ่อพันธุ์ได้จากตามแหล่งต่างๆ ดังนี้
1.พ่อม้ามิลเลอร์ของ ภูผาหมอก โคราช
2.พ่อม้า Milky Way ของคุณต๋อ คอกม้าธาราโชติ ที่ จ.ระยอง
3.พ่อม้าตัวที่สวยที่สุดในประเทศไทยของคุณชำนาญ อยู่ที่ จ. เชียงใหม่
4.พ่อม้าของคุณเอ็ดดี้ ปัจจุบันอยู่ที่ชัยนาท ตัวนี้เป็นพ่อลิปิซานเนอร์สายเลือดใหม่ที่น่าจะมาแรงที่สุด
5.ม้าพันธุ์ควอเตอร์หรือ ควอเตอร์ฮอร์ส หรืออเมริกันควอเตอร์ฮอร์ส
ม้าพันธุ์นี้จัดเป็นม้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอเมริกาจนยุคปัจจุบัน และมีจำนวนม้าสายพันธุ์นี้ทั่วโลกที่ขึ้นทะเบียนไว้มากกว่า 5 ล้านตัว ลักษณะเด่นของม้าพันธุ์นี้คือ ล่ำสันบึกบึน สูงประมาณ 150-155 ซม. คอสั้น หน้าอกกว้างกำยำ สะโพกกลมบ่งบอกถึงแหล่งกำเนิดอันมหาศาลของพละกำลัง เชื่อง เมื่อฝึกดีแล้วจะสงบนิ่งมากเหมาะสำหรับการขี่เล่นเพื่อสันทนาการ เช่น การขี่ข้ามภูมิประเทศ การขี่ม้าอ้อมถังเบียร์ หรือในการขี่ม้าจับลูกวัวของคนอเมริกัน

ม้าแคระ ความน่ารักที่ใครๆก็หลงรัก

ในประเทศไทยมีม้าหลายสายพันธ์ด้วยกัน และใช้ในหลายๆด้าน เช่น แข่งกีฬา ขี่เพื่อความเพลิดเพลิน หรือเลี้ยงเพื่อความชอบส่วนตัว แต่ที่ฮิตโดนใจเด็กคงหนีไม้พ้นม้าแคระ หรือที่เรียกกันว่า Pony แต่อันที่จริงนั้นม้าแคระมีชื่อเรียกว่า Miniature Horse ซึ่งมีส่วนสูงเพียงแค่ 140-150 ซม. เท่านั้น คนตัวเล็กสามารถขี่ได้สบาย แต่ส่วนใหญ่ให้เด็กขี่มากกว่า ม้าที่เรียกว่าโพนี่นั้น เหมาะที่จะใช้สำหรับขี่เล่น หรือเลี้ยงไว้เพื่อความเพลิดเพลินยามได้ดูม้าเล็มหญ้า หากเป็นคอคนรักม้าจริงๆ แล้ว แค่นั่งมองม้าก็นั่งได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ

ม้าแคระ มีจุดกำเนิดในหมู่เกาะ เซ็ตแลนด์ที่ตั้งอยู่ตะวันออกเฉียงเหนือของแผ่นดินใหญ่สกอตแลนด์ ม้าแคระขนาดเล็กที่ได้รับการดูแลและเก็บไว้ในเกาะเช็ตแลนด์เกาะตั้งแต่ ยุคประวัติศาสตร์หลังยุคหินและก่อนยุคเหล็กบรอนซ์ ม้าแคระเซ็ตแลนด์เหล่านี้จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 25-30 ปี การเลี้ยงดูก็ง่าย เพราะว่ามีคุณสมบัติเหมือนม้าทุกประการ กินหญ้า ฟาง แครรอท ผักสด ผลไม้ เป็นอาหาร แต่ก็ต้องปล่อยให้เขาอยู่ในสนามหญ้าเป็นครั้งคราว

การที่จะบอกว่าม้าแคระจริงหรือไม่ก็ต้องดูที่ส่วนสูง โดยเขาจะกำหนดให้มีความสูงไม่เกิน 82-91 ซม. คือหากจะว่าโดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดเล็กกว่าม้าไทยเสียอีก เพราะว่าม้าไทยตัวเมียโดยเฉลี่ยจะสูงประมาณ 115-120 ซม. และตัวผู้จะสูงประมาณ 125-130 ซม.  มีจุดสังเกตจาก หัวเล็ก ลำตัวกะทัดรัด สีขนส่วนใหญ่สีดำหรือน้ำตาล ขนยาวเป็นเงา สายตาดี เป็นสัตว์ที่เชื่อง มีความสุภาพ ไม่ก้าวร้าว สามารถนำมาฝึกได้ นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง ขาสั้น ที่สั้น  แผงคอและหางยาว และขนดกหนาที่ช่วยกันอากาศหนาว

ม้าแคระมีประโยชน์ในเรื่องของช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เช่น ใช้จูง แทนสุนัข สำหรับในอดีตใช้ดึงรถลาก แต่ในปัจจุบันใช้ในการแสดงและให้เด็กขี่มากกว่า ในปัจจุบันเริ่มมีคนเพาะพันธุ์ม้าแคระกันมากขึ้นมีฟาร์มต่างๆเปิดให้เยี่ยมชมมากมาย สำหรับผู้ที่สนใจอยากพาลูกหลานไปลองสัมผัสม้าแคระตัวเป็นๆก็ไม่ใช่เรื่องยาก

อุบัติเหตุและอันตรายจากกีฬาขี่ม้า

การเล่นกีฬานั้นเปรียบเสมือนการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง แต่ยังมีกีฬาอีกหลายประเภทที่อันตรายอย่างมาก แต่มีคนบางกลุ่มที่ชื่นชอบความท้าทายและอยากจะลองเสี่ยงกับมันดูสักครั้ง เช่น กีฬาขี่ม้าเป็นกีฬาที่อันตรายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะจะมีกีฬากี่ชนิดที่เราต้องทำงานร่วมกับสัตว์ที่มีชีวิตซึ่งเป็นเรื่องยากมาก เพราะเราต้องควบคุมม้าให้มีจังหวะการเดินและการวิ่งสอดคล้องกับตัวผู้เล่น มีอุบัติเหตุร้ายแรงหลายครั้งเกี่ยวกับกีฬาขี่ม้า เหมือนที่เคยมีข่าวว่ามีนักกีฬาคนหนึ่งตกจากหลังม้าและได้รับบาดเจ็บหลายแห่งทั้ง อาการเคล็ด, กระดูกหัก และบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนขี่เท่านั้น มีรายงานว่ามีเด็ก 4 คนได้ถูกม้าเตะเข้าอย่างจังเพราะพวกเด็กๆได้เดินเข้าไปหาม้าจากทางด้านหลังนั่นเอง

การขี่ม้ามีกำเนิดมาจากชาติตะวันตก ซึ่งเป็นเมืองหนาว จึงไม่แปลกที่การแต่งกายจะค่อนข้างมิดชิด ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งดีเพราะจะป้องกันแขนขาจากการเกิดบาดแผลถลอกหรือฉีกขาด จากการถูกกิ่งไม้เกี่ยวได้ ดังนั้นควรเลือกใส่หมวกที่ดีไซน์สำหรับการขี่ม้าโดยเฉพาะ แม้แต่รองเท้าบู๊ตสำหรับขี่ม้าถ้าเป็นแบบยาวก็จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บในส่วนกระดูกแข้งได้โดยระหว่างขี่ให้สอดเฉพาะส่วนปลายเท้าเข้าไปในโกลน เพราะถ้าเกิดตกม้าแล้วเท้าติดอยู่กับโกลนก็จะทำให้ถูกม้าลากไปได้และมีการบาดเจ็บมากขึ้นไปอีก นอกจากการดูแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยแล้ว ผู้ขี่ควรจะให้ความรักกับม้า และสังเกตอารมณ์ตลอดจนพฤติกรรมของม้าให้ดี เพื่อความปลอดภัยในการขี่

การบาดเจ็บจากการขี่ม้าส่วนใหญ่เกิดจากการตกม้า การบาดเจ็บจากการถูกม้าดีด หรือกระแทกล้มขณะที่ไม่ได้ขี่ ซึ่งอาจเป็นตอนที่ดูแลม้า ให้อาหาร แปรงขน จูงเดิน เป็นต้น โดยส่วนใหญ่เกิดการบาดเจ็บกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุกีฬาขี่ม้านั้นเรียกได้ว่าเกิดขึ้นได้กับทุกส่วน เหมือนกับอุบัติเหตุจากการขับรถเลยทีเดียว แต่ส่วนที่เกิดได้บ่อย 3 อันดับแรก ได้แก่ ศีรษะ หลัง และไหล่ ความรุนแรงของการบาดเจ็บส่วนใหญ่มักเป็นเพียงการฟกช้ำจากการกระทบกระแทก แต่ในบางครั้งก็อาจถึงขั้นกระดูกหักหรือข้อเคลื่อนหลุดได้เหมือนกัน การขี่ม้าไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่จะต้องอาศัยความกล้าเพราะเมื่อเราขึ้นไปอยู่บนหลังม้าแล้ว สิ่งที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยได้นั้นคือ เราจะต้องทำให้ม้าเกิดความมั่นใจตัวเราว่าเราสามารถบังคับเขาได้

3 สิ่งในการเตรียมตัวขี่ม้า

3 สิ่งในการเตรียมตัวขี่ม้า
โรงเรียนขี่ม้า
การเริ่มต้นเรียนขี่มาจากโรงเรียนที่ดีย่อมเกิดประโยชน์กับตัวนักเรียนเอง เป็นอย่างมาก การเรียนขี่ม้าจากโรงเรียนที่มีค่าเล่าเรียนแพงหรือถูก ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นโรงเรียนที่ดีหรือไม่ดี เพราะโรงเรียนขี่ม้าที่ดีนั้น ย่อมต้องมีสภาพแวดล้อมที่ดี ปลอดภัย และมีครูที่ดีซึ่งได้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี นอกจากนี้การเตรียมสถานที่เรียนให้เหมาะสมกับสภาพการที่จะเรียนขี่ม้าก็มี ความสำคัญเป็นอย่างมาก อาทิ การเตรียมสนามขี่ม้า การเตรียมการเรื่องทฤษฎีต่าง ๆ การเริ่มต้น จากโรงเรียนที่ไม่ดีเท่ากับว่าจะเสียเวลาในการเริ่มต้นไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งการที่คุณเลือกเดินทางมาหาเรานั้น บอกได้เลยว่า คุณตัดสินใจถูกแล้ว ชมรมขี่ม้าทหารม้ารักษาพระองค์ นั้น ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของกีฬาขี่ม้าในประเทศไทยเลยก็ว่าได้

ครูขี่ม้า
ครูขี่ม้าที่ดีนั้น เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการขี่ม้าเป็นอย่างมาก เพราะการขี่ม้านั้น จัดว่าเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ผู้ที่ขี่ม้าเก่งไม่จำเป็นต้องเป็นครูฝึกม้าที่ดีเสมอไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการถ่ายทอดของแต่ละบุคคล ครูขี่ม้าที่ดีต้องสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียนได้และต้องสามารถถ่ายทอด ให้นักเรียนได้เข้าใจถึงวิธีบังคับม้าที่ถูกต้อง และต้องคอยแก้ไขปัญหาต่างๆอันเกิดจากการขี่ม้าให้แก่นักเรียนได้ทุกเวลา ครูขี่ม้าที่ดีต้องมีความละเอียดรอบคอบอย่างสูง มิฉะนั้นแล้ว อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุแก่นักเรียนและม้าได้โดยไม่ได้ตั้งใจ ก็เป็นได้

อุปกรณ์ในการขี่ม้า
อุปกรณ์ในการขี่ม้าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ออกแบบและพัฒนาเพื่อนักขี่ม้าโดยเฉพาะ มุ่งเน้นในเรื่องการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และยังช่วยให้สามารถบังคับม้า หรือสื่อสารความเข้าใจระหว่างผู้ขี่ม้ากับม้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนที่สุด คุณกับม้าของคุณจะเข้าขากันได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับม้าของคุณ ซึ่งอาจแยกได้เป็น อุปกรณ์คน และอุปกรณ์ม้า

ประโยชน์ของการขี่ม้า
1. เสริมสร้างบุคลิกภาพ หลังตรง อกผายไหล่ผึ่ง ดูสง่างาม มั่นใจในตนเอง
2. เสริมสร้างสมาธิ ช่วยแก้ไขเด็กสมาธิสั้น ลดความซนของเด็ก
3. สร้างพัฒนาการด้านอารมณ์ ไม่หงุดหงิดง่าย
4. ให้มีใจรักสัตว์ โอบอ้อมอารี
5. ได้ความภูมิใจในกีฬาชนิดนี้ ที่น้อยคนนักจะได้เข้ามาสัมผัส
6. อาชาบำบัด ในกลุ่มเด็กพิเศษ

ความนิยมเลี้ยงม้าในประเทศไทย

C12464692-112
ม้าเป็นสัตว์ที่คนนิยมนำมาเลี้ยง ไม่ต่ำกว่า 5,๐๐๐ ปีมาแล้ว ม้าจึงเปรียบเหมือนสมาชิกภายในบ้าน เป็นทั้งผู้รับใช้ และเป็นทั้งเพื่อนไปในตัว ม้าเป้นสัตว์ตระกูลสูงที่มีประโยชน์ทั้งในเวลาปกติและในเวลาสงคราม ม้าใช้งานจะมีรูปร่างใหญ่ แข็งแรง ลำตัวหนาเหมือนวัว นิสัยสงบเงียบ ส่วนม้าใช้ขี่รูปร่างเพรียว กระดูกสมส่วน นิสัยคล่องแคล่ว ว่องไว รูปร่างของม้าโพนี่ที่ดี เมื่อดูแล้วจะต้องได้สัดส่วนและสมดุล เราอาจสังเกตดูนิสัยม้าได้จากนัยน์ตาม้า ถ้าตาเล็กนิสัยจะไม่ดี โดยธรรมชาติม้าจะมีนิสัยตื่นตกใจง่าย ดังนั้นเราจะต้องเข้าหามันด้วยความนุ่มนวล เมื่อม้าทำผิด เราจะต้องทำโทษทันที มิฉะนั้นมันจะจำไปตลอดและลืมยาก แต่เมื่อทำดีเราจะต้องชมโดยตบที่คอเบาๆ นิสัยไม่ดีของม้าใช่มีมาแต่กำเนิด แต่เกิดจากสิ่งแวดล้อมในภายหลังเราสามารถจะแก้ได้โดยอาศัยคนเลี้ยง คนเลี้ยงม้าที่ดีจะต้องเป็นคนเงียบ เรียบร้อย มีความเมตตาต่อสัตว์ ไม่ลุกลี้ลุกลน ทำอะไรต้องสม่ำเสมอ และมั่นคง

ส่วนใหญ่เราใช้ม้าเพื่อวิ่ง ดังนั้นสิ่งสำคัญของม้าคือ ขา ความอดทน แข็งแรงของขาและเท้าของม้าจะต้องตั้งตรง มีมุมของเท้าที่เหมาะสม ขาหลังของม้าเปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่ใช้ส่งกำลังดันตัวม้าไปข้างหน้า ส่วนขาหน้าซึ่งติดกับร่างกายด้วยกล้ามเนื้อและเอ็น จะเป็นตัวลดแรงกระแทก ไหล่ม้าควรจะยาว ลาดเอียง ถ้าไหล่ตรงจะวิ่งไม่ทน อกต้องเล็ก กว้างและมีกล้ามเนื้อ กระดูกซี่โครงยืดหยุ่นได้ดี เพื่อให้พื้นที่สำหรับหัวใจและปอดทำงานได้เต็มที่ ถ้าอกตื้น ขาลีบ ปอดม้าจะทำงานไม่เต็มที่ หลังจะต้องตรง กว้าง แข็งแรง ม้าหลังสั้นจะขี่สบาย แต่วิ่งไม่เร็ว ม้าหลังยาวจะไม่แข็งแรง ม้าคอยาวจะแข็งแรงได้สัดส่วนในการรับศีรษะ ถ้าม้าคอหนาเหมือนคอแกะจะเอี้ยวคอไม่สะดวก หน้าม้าจะต้องกว้าง ถ้าหน้าแคบ ช่องลมหายใจจะเล็ก รูจมูกต้องกว้างเพื่อให้ลมผ่านเข้าออกได้สะดวก หูจะต้องใหญ่และตอบสนองต่อเสียงได้ดี ม้าที่สะบัดหูไปมาบ่อยครั้งจะเป็นม้าที่ตื่นกลัวง่าย ม้าที่หูลู่ไปข้างหลังมากจะเป็นม้าที่ดุร้าย นัยน์ตาม้าจะต้องดูแจ่มใส มีแววของความเป็นมิตร ม้าที่ตาเล็ก ตาคล้ายเหยี่ยว จะเป็นม้าที่นิสัยไม่ดี เมื่อเราดูแต่ละจุดของตัวม้าแล้วก็ดูทั้งตัว ม้าจะต้องดูแข็งแรง กลมกลืนกันทุกส่วน สุดท้ายก็ดุการเคลื่อนไหว ขาต้องตรง และเคลื่อนไหวอย่างมีจังหวะ

ม้าไทยแท้มีอยู่สองสายพันธุ์ คือ สายพันธุ์มองโกล ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนแต่ยุคโบราณ กับอีกสายพันธุ์คือสายพันธุ์ไทยใหญ่ที่มีพื้นฐานมาจากม้ามองโกลเหมือนกันแต่ภายหลังได้รับอิทธิพลจากม้าที่มาจากประเทศพม่า โดยเฉพาะช่วงที่พม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษนั้น ข้าหลวงที่ปกครองพม่าจะมาจากอินเดีย และเมื่อย้ายมาอยู่ที่พม่าก็จะนำม้ามาด้วย และเป็นที่รับรู้กันว่าม้าของข้าหลวงอังกฤษที่ปกครองอินเดียนั้นได้ผสมผสานกับม้าพื้นเมืองของอินเดียที่ภายหลังพัฒนามาเป็นม้ามาวารี หรือม้าอาหรับเวอร์ชั่นอินเดียที่โด่งดัง พม่าก็ได้รับอิทธิพลม้าสายนี้มาเช่นกัน และเมื่อมีศึกกับไทย ม้าเหล่านี้ก็กระจายมาโดยการเป็นพาหนะของทหารในการสงคราม

ลักษณะและความสำคัญของม้าขี่ที่ดี

ลักษณะและความสำคัญของม้าขี่ที่ดี
ม้าเป็นสัตว์ที่ใกล้ชิดกับคนมานับพันๆปี และเป็นสัตว์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้ในการขับขี่ บรรทุก ลากเข็น ขนส่ง หรือใช้ในการทำไร่ไถนา แต่ปัจจุบันการใช้แรงงานม้าสำหรับการทำไร่ไถนา ลดน้อยลงไปมาก เนื่องจากมีการพัฒนานำเครื่องจักรเครื่องมือทุ่นแรงมาใช้ทดแทนแรงงานสัตว์ มากขึ้น นอกจากนี้ทางด้านการทหาร ม้าก็มีบทบาทสำคัญในการบรรทุกสัมภาระ และอุปกรณ์ต่างๆไปส่งยังแนวหน้าที่ยานพาหนะไปไม่ถึง และใช้เป็นยานพาหนะในราชการทหารม้าอีกด้วย ด้านการกีฬา ม้าก็มีงานสำคัญอย่างมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกีฬาม้าแข่ง การขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง หรือการขี่ม้าเล่นทั่วไป กีฬาโปโล ด้านความบันเทิง มนุษย์ยังใช้ม้าในการแสดงการขี่ผาดโผนหรือการแสดงละครสัตว์
สถานที่เลี้ยงม้าส่วนใหญ่จะอยู่ในชนบท เพราะมีบริเวณกว้างขวาง อากาศดี มีทุ่งหญ้าที่เหมาะกับการปลูกหญ้าไว้เป็นอาหารม้า ประเทศไทยมีการเลี้ยงม้าที่แพร่หลาย คือที่จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา มีคอกม้า บำรุงพันธุ์ม้า เพื่อใช้ในกิจการที่ต้องการ ม้าเป็นสัตว์ตระกูลสูงที่มีประโยชน์ทั้งในเวลาปกติและในเวลาสงคราม สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้รักษาเอกราชและความเป็นไทของชาติไทยไว้ให้คนรุ่นหลัง ก็ได้อาศัยม้าไว้เป็นพาหนะคู่ใจในการเข้ารบ เพราะในสมัยก่อนไม่มียวดยานพาหนะและทางคมนาคมก็ไม่สะดวกอย่างในสมัยนี้ ม้ายังแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือม้างาน และม้าขี่ ม้างานอาจ เรียกว่าม้าเลือดเย็น ม้าขี่ เรียกว่าม้าเลือดอุ่น
ส่วนใหญ่เราใช้ม้าเพื่อวิ่ง ดังนั้นสิ่งสำคัญของม้า คือ ขา ความอดทน แข็งแรงของขา และเท้าของม้าจะต้องตั้งตรง มีมุมของเท้าที่เหมาะสมขาหลังของม้าเปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่ใช้ส่ง กำลังดันตัวม้าไปข้างหน้า ส่วนขาหน้าซึ่งติดกับร่างกายด้วยกล้ามเนื้อและเอ็น จะเป็นตัวลดแรงกระแทก ไหล่ม้าควรจะยาว ลาดเอียง ถ้าไหล่ตรงจะวิ่งไม่ทน อดต้องเล็ก กว้างและมีกล้ามเนื้อ กระดูกซี่โครงยืดหยุ่นได้ดี เพื่อให้พื้นที่สำหรับหัวใจและปอดทำงานได้เต็มที่ ถ้าอกตื้น ขาลีบ ปอดม้าจะทำงานไม่เต็มที่ หลังจะต้องตรง กว้าง แข็งแรง ม้าหลังสั้นจะขี่สบาย แต่วิ่งไม่เร็ว ม้าหลังยาวจะไม่แข็งแรง ม้าคอยาวจะแข็งแรง ได้สัดส่วนในการรับศีรษะ ถ้าม้าคอหนาเหมือนคอแกะ จะเอี้ยวคอไม่สะดวก หน้าม้าจะต้องกว้าง ถ้าหน้าแคบ ช่องลมหายใจจะเล็ก รูจมูกต้องกว้าง เพื่อให้ลมผ่านเข้าออกได้สะดวก หูจะต้องใหญ่ และตอบสนองต่อเสียงได้ดี ม้าที่สะบัดหูไปมาบ่อยครั้ง จะเป็นม้าที่ตื่นกลัวง่าย ม้าที่หูลู่ ไปข้างหลังมากจะเป็นม้าที่ดุร้าย นัยน์ตาม้าจะต้องดูแจ่มใส มีแววของความเป็นมิตร ม้าที่ตาเล็กตาคล้ายเหยี่ยวจะเป็นม้าที่นิสัยไม่ดี เมื่อเราดูแต่ละจุดของตัวม้าแล้วก็ดูทั้งตัว ม้าจะต้องดูแข็งแรงกลมกลืนกันทุกส่วน สุดท้ายก็ดุการเคลื่อนไหวขาต้องตรง และเคลื่อนไหวอย่างมีจังหวะ

เคล็ดลับการเริ่มไปฝึกหัดขี่ม้าให้ประสบความสำเร็จตามที่เราต้องการ

7

ก่อนที่จะเริ่มไปฝึกหัดขี่ม้านั้นเคล็ดลับความสำเร็จที่จะต้องถามตัว เองเสียก่อนว่า เราพร้อมหรือยัง รีบถามตัวเองเสียก่อนจะตัดสินใจ มิฉะนั้นแล้วการขี่ม้าอาจจะไม่เป็นไปตามจินตนาการที่เราได้วาด ฝันเอาไว้ รวมถึง ถามตัวเองว่าคุณมีในสิ่งเหล่านี้ครบแล้วหรือยังการฝึกหัดทำอะไรก็ตาม เมื่อหัดใหม่ ๆ ต้องมีเวลาให้อย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับการขี่ม้า คุณต้องมีเวลาอย่างน้อย สัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือยิ่งมีมากเท่าไรได้ยิ่งดี เพราะความต่อเนื่อง จะทำให้คุณขี่ม้าเป็นเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณขี่ ๆ หยุด ๆ ยกตัวอย่างเช่น ขี่สัปดาห์ละครั้งหรือสัปดาห์ละ 3 ครั้ง หายไปอีก 2 สัปดาห์ กลับมาขี่อีก 5 ครั้ง อย่างนี้ชาติหน้าก็ขี่ไม่เป็น แต่การขี่ม้านั้น ถ้าขี่เป็นแล้ว เข้าใจหลักของการบังคับแล้ว จะชี่เป็นเลย นั่นหมาย ความว่าไม่ได้ขี่เป็นปีๆแล้วกลับมาขี่ใหม่ก็ขี่ได้ เช่นเดียวกับการขับรถ ปัญหามันอยู่ที่ว่า ต้องขี่ให้เป็นเสียก่อน เมื่อขี่เป็นแล้วจะขี่ม้าเพื่อเป็น การออกกำลังกายก็ไม่จำเป็นต้อง มาขี่บ่อย แต่ถ้าอยากจะเป็น นัก กีฬาขี่ม้าแล้ว ยังไงๆก็ต้องขี่ม้าทุกวัน การสนับสนุนที่ดี ส่งผลเป็นอย่างมากสำหรับโอกาสในการขี่ม้าที่ก้าวหน้าและได้ผล อาทิ การสนับสนุนจากผู้ปกครองเริ่มตั้งแต่การมารับ-ส่ง ตลอดจนการจัดหาเครื่องแต่งกาย, อุปกรณ์ สำหรับม้า หรือจนกระทั่งถึงการซื้อม้า (ในกรณีที่อยากมีม้าเป็นของตัวเอง) รวมถึงการสนับสนุนจากสถาบันการศึกษา เพราะ เมื่อเป็นนักกีฬาแล้ว บางครั้ง ตารางการแข่งขันไม่ตรงกับวันหยุดก็อาจจะมีผลกระทบได้ ตลอดจนความเข้าอกเข้าใจของคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนรัก ต้องเข้าใจว่าการขี่ม้านั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 – 3 ชั่วโมง (ก่อนขี่ ระหว่างขี่ และหลังขี่) อาจจะทำให้กระทบกับกิจกรรมอื่น ๆ ได้

การขี่ม้าไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่จะต้องอาศัยความกล้า เพราะเมื่อเราขึ้นไปอยู่บนหลังม้าแล้ว สิ่งที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยได้นั้นคือ เราจะต้องทำให้ม้าเกิดความมั่นใจตัวเราว่าเราสามารถบังคับเขาได้ (เราเป็นนายม้า ไม่ใช่ให้มันเป็นตัวพาเราไป) สำหรับการขี่ม้า ผู้ขี่เป็นคนบังคับให้ม้าเดิน วิ่ง หยุด ตามที่ต้องการ เราจะเคยได้ยินเสมอสำหรับสุภาษิตไทยที่ว่า ?กุมบังเหียน? นั้นหมายถึงผู้ขี่ม้านั้นสามารถบังคับม้าไปในทิศทางใดก็ได้ตามใจปราถนา ซึ่งเราต้องกล้าที่จะออกคำสั่งให้ม้าทำตามเรา, ต้องสามารถสื่อสารกันให้เข้าใจ ทั้งๆที่เราไม่สามารถพูดกับเขารู้เรื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำง่ายๆ การขี่ม้าจึงสนุก ตื่นเต้น ท้าทาย แต่ถ้าคุณสำรวจตัวเองแล้วว่าเป็นคนขี้กลัว ตกใจง่าย หล่ะก็ กีฬาขี่ม้าน่าจะไม่เหมาะกับคุณและเมื่อคุณสามารถจัดการกับ ข้อจำกัดต่าง ๆ เหล่านี้ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ เลือกสถานที่จะเรียนขี่ม้า และครูสอนขี่ม้า ปัจจัยตรงนี้มีผลมากเนื่องจากบางครั้งสถานที่ขี่ม้าสะดวก (ใกล้บ้าน) แต่ครูไม่ถูกใจหรือครูถูกใจแต่ไม่สะดวกในการเดินทาง ไม่สามารถไป-มา บ่อย ๆ ได้ โรงเรียนขี่ม้าบางที่มีข้อจำกัดในการรับสมาชิกจำนวนมากๆ บางโรงเรียนอัตราค่าขี่ม้าแพง ซึ่งคนฐานะปานกลางส่วนใหญ่สู้ไม่ไหว และอีกมากมายหลายเหตุผล

การขี่ม้าได้รับการพิจารณาว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดีอย่างหนึ่ง

การขี่ม้าได้รับการพิจารณาว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดี ไม่เพียงม้า แต่สำหรับผู้ขับขี่ก็ได้รับด้วยเป็นอย่างดี เพราะผู้ขับขี่มีการใช้กล้ามเนื้อหลักที่จะรักษาที่นั่งเพื่อทรงตัวบนหลังม้า นั่งอย่างถูกต้องบนอาน และใช้กล้ามเนื้อขาเพื่อสื่อสารกับม้า การหายใจที่เป็นจังหวะและท่าทางการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องทั้งหมด ช่วยเสริมสร้างหลักการทำงานของร่างกายปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ท่านที่ฝึกขี่ม้าและเรียนรู้พื้นฐานของการจัดการท่าที่เหมาะสมในขณะที่อยู่บนหลังม้ามาบ้างแล้ว จะพบว่า ท่าทางที่ดีในขณะที่คุณนั่ง อาจส่งผลให้อาการปวดหลังที่มีนั้นทุเลาลดลงบาง การฝึกซ้อมขี้ม้าอย่าสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มเติมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง ให้มีประสิทธิภาพไม่ปวดหลังง่ายทุกครั้งในขณะที่ขี่ ทั้งร่างกายจิตใจและจิตวิญญาณทั้งหมด จะเป็นส่วนหนึ่งของม้า การออกกำลังกายด้วยการขี่ม้าจึงถือเป็นการฝึกสมาธิที่ดี เมื่อคุณเลือกรูปแบบของการขี่ที่คุณต้องการในการฝึกขี่ได้แล้ว รูปแบบที่ฝึกฝนเป็นประจำ ชั่วโมงของการออกกำลังกายและความเข้าใจที่ถูกต้องระหว่างม้าและผู้ขับขี่ ในที่สุดคุณจะมีสไตล์การขี่เป็นของตัวเอง คุณกับม้าจะเรียนรู้และเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

การทำงานของอวัยวะต่างๆโดยเฉพาะร่างกายโดยรวมในขณะที่ขี่ กล้ามเนื้อต้นขาด้านในจะได้รับการออกกำลังกาย ซึ่งได้จากการใช้สื่อสารคำสั่งไปยังม้า อัตราการเต้นหัวใจเมื่อคุณออกกำลังกายด้วยการขี่ม้า จะมีการใช้กล้ามเนื้อมากขึ้น จึงมีผลให้ร่างการกระตุ้นความแข็งแรงของหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้นอีกด้วยนักกายภาพบำบัดอธิบายว่า นอกจากการเคลื่อนไหว(การเดิน) ของม้าช่วยในการกระตุ้นพัฒนาการการเคลื่อนไหว และจังหวะการเดิน ยังส่งผลต่อการจดจำแก่ผู้ที่นั่งบนหลังม้า อีกทั้งการเคลื่อนไหวของม้าในแต่ละช่วงการเดินเทียบได้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของมนุษย์ด้วยเช่นกันด้วยเหตุนี้จึงทำให้ม้าถูกน้ำมาฝึก เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวและสติปัญญา เมื่อเด็กขึ้นไปอยู่บนหลังม้า ม้าจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการด้านการทรงตัวเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี โดยร่างการของผู้ป่วยจะมีการปรับตัวเอง เป็นเหมือนกลไกลอัตโนมัต หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นสัญชาติญาณของความอยู่รอดมนุษย์ ที่พยายามจะรักษาสมดุลของตนเอง เพื่อไม่ให้ตนเองตกจากหลังม้า

หัวใจของการขี่ม้าคือการสื่อสารระหว่างคนกับม้า

ใครจะคิดว่าการขี่ม้าไม่ใช่แค่เป็นกีฬาที่ให้ความท้าทายเท่านั้น แต่การขี่ม้ายังเป็นการส่งพลังบำบัดลดอาการเจ็บป่วยหลายๆ อย่าง เช่น อาการปวดหลังให้แก่มนุษย์ได้อีกด้วย รู้อย่างนี้แล้วคุณคงสนใจการขี่ม้าขึ้นมาตงิดๆล่ะซิ ถึงแม้การขี่ม้าเป็นกีฬาที่ใช้ทักษะและสมรรถภาพทางร่างกายไม่มากเท่าไร แต่ผู้บังคับม้ากลับต้องอาศัยทักษะในการสื่อสารกับม้าอย่างมาก ต้องเข้าใจม้า ต้องสื่อสารกับม้าได้เพราะการขี่ม้ามีทั้งการขอ และการให้ ฉะนั้นหัวใจของการขี่ม้าคือการสื่อสารระหว่างคนกับม้านั่นเอง ถ้าคุณเริ่มสนใจการขี่ม้าแล้วล่ะก็ งั้นลองมาดูกันดีกว่าว่าคุณต้องทำตัวอย่างไร

เตรียมตัวก่อนขี่ม้า

การเรียนขี่ม้านั้นการเตรียมตัวไม่ยุ่งยาก ก่อนอื่นเลยคุณต้องสำรวจตัวเองก่อนว่าคุณเป็นคนกลัวม้ารึเปล่า เพราะผู้ที่จะเรียนขี่ม้าต้องไม่กลัวม้าสำคัญที่สุดเพราะถ้าคุณเป็นคนกลัวม้าก็คงยากที่จะหัดเรียน

จะเริ่มต้นอย่างไรดี

สถานที่ขี่ม้าแต่ละที่มีหลักสูตรการเรียนที่ใกล้เคียงกันควรสอบถามคอร์สที่คุณต้องการก่อนเริ่มเรียน การเรียนขี่ม้าส่วนใหญ่แบ่งเป็นสามระดับ คือ
ระดับเบื้องต้น เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับม้าและการบำรุงม้า อุปกรณ์การขี่ม้า การขึ้นลงม้า การจัดท่านั่งม้า การจับบังเหียง
ระดับพัฒนา ระดับนี้ผู้เรียนขี่ม้าเริ่มจะเข้าใจและสามารถเข้าจังหวะกับม้าได้มากขึ้น แต่จะเน้นที่ท่านั่งม้า การฝึกวิ่งเรียบยกตัว วิ่งเรียบนั่ง การวิ่งโขยกและข้ามเครื่องกีดขวางบ้างเล็กน้อย
ระดับนักกีฬา ระดับนี้ผู้ขี่ม้ามีความสามารถในการบังคับม้าได้ดีพอสมควรแล้ว ต้องใช้ครูฝึกที่มีความสามารถคอยดูแลขัดเกลาผู้ขี่ม้าให้มีความชำนาญมากยิ่งขึ้น สามารถลงแข่งกีฬาขี่ม้าในขั้นนี้ได้ ผู้เรียนขี่ม้าจะต้องฝึกทักษะในการทรงตัวและการสื่อสารกับม้า

เรียนรู้ที่จะบังคับม้าให้ไปทิศทางที่ต้องการ ผู้ขี่ม้ายังต้องหมั่นคอยดูแลม้าอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความสนิทสนมกับม้า เพราะม้าก็เหมือนสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขหรือแมวที่ต้องการ การดูแลเอาใจใส่ เพื่อพัฒนาความสมบูรณ์ ความฉลาดของม้า ผู้เรียนขี่ม้ายังต้องหมั่นสังเกตอารมณ์ของม้าให้เป็นด้วยเช่น ถ้าม้าหูตั้งแปลว่าม้าดีใจ หรือถ้าม้าหูลีบ แปลว่าม้ากำลังอารมณ์ไม่ดี ฉะนั้นอย่าเข้าใกล้ นี่เป็นเกร็ดง่ายๆ ในการอ่านอารมณ์ของม้า

ขี่ม้า กีฬาที่ต้องรักสวยรักงามเพื่อความปลอดภัย

การขี่ม้าเป็นกีฬาที่มีประวัติอันยาวนานซึ่งเกี่ยวโยงกับใช้ม้าเป็นพาหนะในการสู้รบของทหารในสงครามครั้งอดีต กีฬาประเภทนี้ได้รับการบรรจุในโอลิมปิกเกมส์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1900 และมีการแข่งขันกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยแบ่งเป็นการแข่งขันเป็น 3 ประเภท คือ ศิลปะการบังคับม้า (Dressage) การขี่ม้าข้ามภูมิประเทศ (Cross Country) และการกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง

การขี่ม้า ถือเป็นกีฬาแห่งความเท่าเทียมกันเนื่องจากเป็นกีฬาที่ไม่มีการแบ่งแยกเพศของนักกีฬา ทั้งผู้หญิงผู้ชายจะทำการแข่งขันในรายการเดียวกัน แม้แต่ในการแข่งขันประเภททีม ก็ไม่มีการกำหนดโควต้าว่าจะต้องมีผู้หญิงหรือผู้ชายเท่าไร ทั้งเป็นกีฬาที่นักกีฬามีอายุใช้งานสูง สามารถแข่งได้จนถึงอายุมากๆ นอกจากนี้ ม้ายังเป็นสัตว์ประเภทเดียวที่ได้รับการนำมาแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งได้รับเกียรติเหมือนเป็นนักกีฬา โดยมีการประกาศชื่อม้าเช่นเดียวกับผู้ขี่และยังมีการมอบรางวัลให้กับม้าอีกด้วย

การบาดเจ็บจากการขี่ม้าส่วนใหญ่เกิดจากการตกม้า และนักกีฬาอาจเสียชีวิตเนื่องจากการบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะ ลองนึกภาพม้าแข่งโตเต็มที่จะมีน้ำหนักตัวมากกว่า 500 กิโลกรัม วิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่ศีรษะของผู้ขี่จะอยู่สูงจากพื้น 3-4 เมตร เมื่อเกิดอุบัติเหตุแรง กระแทกที่เกิดขึ้นย่อมมหาศาล จึงเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่ผู้เล่นจะประมาทไม่ได้เลย การป้องกันที่สำคัญที่สุดในการเล่นกีฬาประเภทนี้ คือ การแต่งตัวให้สวยงามรัดกุมค่ะ การขี่ม้ามีกำเนิดมาจากชาติตะวันตก ซึ่งเป็นเมืองหนาว จึงไม่แปลกที่การแต่งกายจะค่อนข้างมิดชิด ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งดี เพราะจะป้องกันแขนขาจากการเกิดบาดแผลถลอกหรือฉีกขาด จากการถูกกิ่งไม้เกี่ยวได้ ดังนั้น ผมเผ้าก็ต้องรวบให้ดีและควรเลือกใส่หมวกที่ดีไซน์สำหรับการขี่ม้าโดยเฉพาะ แม้แต่รองเท้าบู๊ตสำหรับขี่ม้า ถ้าเป็นแบบยาวก็จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บในส่วนกระดูกแข้งได้ โดยระหว่างขี่ให้สอดเฉพาะส่วนปลายเท้าเข้าไปในโกลน (ห่วงที่ห้อยออกมาจากอานม้าทั้งสองข้าง สำหรับสอดเท้ายันในเวลาขี่) เพราะถ้าเกิดตกม้าแล้วเท้าติดอยู่กับโกลนก็จะทำให้ถูกม้าลากไปได้และมีการบาดเจ็บมากขึ้นไปอีก

นอกจากการดูแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญอีกเรื่องก็คือ ผู้ขี่ควรจะให้ความรักกับม้า และสังเกตอารมณ์ตลอดจนพฤติกรรมของม้าให้ดี เพื่อความปลอดภัยในการขี่ เพราะม้าก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอารมณ์เหมือนกับเรานั่นแหละ ถ้าวันไหนอารมณ์ไม่ดี ก็อาจเป็นอันตรายกับผู้ขี่ได้ ประโยคที่ว่า…ตกม้าตายมีอยู่จริง ไม่ได้เป็นแค่สำนวนไทยเท่านั้นนะคะ

ประโยชน์ต่อร่างกายการขี่ม้าจัดเป็นแอโรบิคแบบเบาๆ ทำให้หัวใจและปอดแข็งแรง ขณะเดียวกันยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ถึงชั่วโมงละ 300 แคลอรี่ ทำให้กล้มเนื้อขา ต้นขา และท้องแข็งแรง ช่วยให้ท่วงท่าบุคลิกดี เกิดความสมดุล ปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็ว อวัยวะต่างๆ ทำงานสัมพันธ์กัน

การขี่ม้าเป็นการสร้างกล้ามเนื้อแล้วยังเป็นการออกกำลังกาย


การขี่ม้านั้นเป็นสิ่งที่สร้างความสนุกสนานและความตื่นเต้นได้เป็นอย่างดี การขี่ม้านั้นมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน หรือ เป็นการกีฬาต่างๆ การขี่เล่นเพื่อการพักผ่อน แม้แต่ใช้ในการเดินทาง การขี่ม้านั้นแบ่งเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ ประเภท English และ Western ซึ่งจะขี่ไม่เหมือนกัน ต่างกันที่อุปกรณ์ และการบังคับม้า ซึ่งม้าที่ใช้ขี่ในแต่ละแบบ ก็จะต้องผ่านการฝึกมาไม่เหมือนกัน ก่อนที่จะเริ่มการขี่ม้านั้นแนะนำว่าถ้าท่านต้องการเรียนรู้วิธีการขี้ม้า คุณควรมีผู้ที่มีประสบการณ์ในการสอน เพราะการขี่ม้าถึงจะดูไม่ยากเย็นนัก แต่ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด การขี่ม้านั้นมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นชุดในการขี่ม้าที่เหมาะสม กันประเภทและวัตถุประสงค์ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น อานม้า บังเหียน ซึ่งก็จะมีหลากหลายแบบตามประเภทของการขี่ม้า ฯลฯ

ก่อนอื่นต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการขี่ม้าก่อน โดยเริ่มที่ชุดสำหรับขี่ม้า การขี่ม้าเป็น กิจกรรมที่ค่อนข้างที่จะอันตราย ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องใส่ชุดที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ และจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการขี่ม้า ก็คือ หมวกกันน็อค ซึ่งจะช่วยได้อย่างมากถ้าเกิดตกจากหลังม้า สำหรับเสื้อนั้นควรที่จะเป็นชุดที่ค่อนข้างพอดีตัว ไม่ลุ่มล่าม รองเท้าสำหรับขี่ม้าควรเป็นรองเท้าที่มีส้นเล็กน้อย เพื่อง่ายต่อการขึ้นลงจากหลังม้า แม้แต่ชุดชั้นใน ในต่างประเทศบางประเทศ มีการผลิตชุดชั้นในสำหรับใส่ขี่ม้าโดยเฉพาะเช่นกัน สำหรับสีของเสื้อผ้าที่ใช้ขี่ม้านั้น ถ้าไม่ได้ขี่ในการแข่งขันกีฬาบางชนิด เช่น กระโดนข้ามรั้ว ขี่ม้าสวยงาม ก็จะไม่มีการกำหนดสีเสื้อผ้าที่จำเป็นต้องใส่ในการขี่ม้า

ก่อนที่จะขึ้นหลังม้า ได้นั้นจำเป็นที่จะต้องขึ้นไปบนหลังม้าให้ได้ก่อน สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมากคือ อย่าอยู่ด้านหลังม้า เพราะนั้นอาจจะทำให้ม้าตกใจและทำร้ายคุณได้ ซึ่งปรกติแล้วการขึ้นม้านั้นจะขี้นทางด้านซ้ายของม้า แต่ก่อนที่จะขึ้นขี่ม้านั้น จะต้องตรวจเช็กอุปกรณ์ต่างๆ ว่าอยู่ในสะภาพที่สมบูรณ์ ดีหรือไม่ และ อุปกรณ์ติดกับตัวม้าได้อย่างแน่หนาหรือไม่ สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มขี่ม้า ควรมีผู้ที่มีประสบการณ์ในการขี่ม้าช่วยตรวจตราอุปกรณ์ต่างๆให้ เพราะจำเป็นที่จะต้องติดตั้งอุปกรณ์ อานม้า ต่างๆให้แน่นพอเหมาะ ไม่ให้หลวมจนทำให้หลุดเลื่อนได้ง่าย แต่ก็ไม่ให้แน่นเกินไปจนทำให้ม้าบาดเจ็บ ในการขึ้นหลังม้านั้น ควรที่จะลูบคอม้าก่อน เพื่อเป็นการบอกกล่าวก่อนที่จะขึ้นหลังม้า เป็นการทำให้ม้าไม่ตกใจ(แล้วแต่ม้าที่ฝึก)

 

ความรู้เบื้องต้นเรื่องการฝึกม้าเพื่อใช้ขี่และการเริ่มต้นในการขี่ม้า

 

การฝึกม้าสำหรับขี่นั้นผู้ฝึกควรจะต้องเรียนรู้วิธีการขี่ที่ถูกต้อง เรียนรู้การออกคำสั่งต่างๆ การบังคับม้าโดยใช้น้ำหนัก การเตือนน่อง การใช้อุปกรณ์ช่วยในการขี่ และอื่นๆในการฝึกม้าที่ดีไม่เพียงแต่จำเป็นจะต้องมีทักษะการตีวง การดูแลม้าที่ดีเท่านั้น แต่ยังจะต้องมีตาที่ดีมีประสบการณ์จากการขี่ม้าเยอะและสามารถรับมือกับม้าได้ตลอดเวลา อย่างเช่น ม้ามีอาการต่อต้านพุ่งเข้าใส่คนตีวงเราจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร นอกจากนี้การฝึกตีวงยังเป็นการเริ่มต้นสานความสัมพันธ์ระหว่างผู้ฝึกและม้า เพราะม้าจะต้องมุ่งสมาธิและคอยฟังคำสั่งต่างๆ ซึ่งเวลาที่เหมาะสมในการตีวงคือประมาณ 15-20 นาที มีช่วงพักให้ม้าเป็นระยะและเมื่อม้าเริ่มรู้จักกับคำสั่งต่างๆดีแล้ว พยายามให้เปลี่ยนจังหวะการก้าว เพื่อให้ม้ารู้จักตอบสนองต่อคำสั่งเร็วขึ้น เมื่อม้าคุ้นกับคำสั่งเหล่านี้แล้ว การฝึกขี่ ฝึกคำสั่งต่างๆให้ม้าก็จะขึ้น

การขี่ม้าในระดับเริ่มต้นนั้นต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร
ก่อนเริ่มขี่ม้านั้นจำเป็นจะต้องเรียนรู้วิธีการขี้ม้ามาก่อนเพื่อที่จะสามารถบังคับม้าได้และควรมีผู้ที่มีประสบการณ์ในการสอนมาค่อยให้คำแนะนำก่อนด้วย และจะต้องเรียนรู้อุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นในการใช้ในการขี่ม้า อย่างเช่น อานม้า บังเหียนที่มีหลากหลายออกไป ทั้งนี้ในการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับขี่ม้านั้นจะต้องเริ่มจาก มีชุดสำหรับขี่ม้า และเป็นชุดที่เหมาะสมสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ หมวกกันน๊อค เพราจะช่วยได้มากถ้าหากเกิดตกจากหลังม้า ในส่วนของเสื้อควรจะเป็นชุดที่พอดีกับตัว และรองเท้านั้นควรจะเป็นรองเท้าที่มีส้นเล็กน้อย ซึ่งก่อนจะขึ้นหลังม้าได้นั้นสิ่งที่ควรระวังเป็นอย่างมากคือ อย่างอยู่ด้านหลังม้า เพราะจะทำให้ม้าตกใจและทำร้ายได้ สำหรับการขี่ม้านั้นจะต้องตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆด้วยว่าอุปกรณ์ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่หรือไม่ ทั้งนี้ควรจะให้ผู้ที่มีประสบการณ์ในการขี่ม้ามาช่วยตรวจสอบให้ก่อนเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น และสามารถบังคับม้าได้ดีขึ้น

การฝึกทักษะเบื้องต้นในการขี่ม้าให้เกิดความชำนาญ

การขี่ม้าเบื้องต้นวิชาการขี่ม้าเป็นแขนงวิชาประเภทศิลปะผสมกับการกีฬา การที่กล่าวว่าเป็นศิลปะนั้นคือม้าเป็นสิ่งมีชีวิตมีจิตใจมีสมองเช่นเดียวกับมนุษย์ ฉะนั้นผู้ขี่ม้าจะต้องมีความสามารถรู้จักวิธีการเข้าถึงจิตใจของม้า ชักจูงโน้มน้าวให้ม้าปฏิบัติตามความประสงค์โดยไม่มีการขัดขืน การติดต่อสื่อสารสัมพันธ์กันระหว่างใจม้ากับใจมนุษย์เป็นเสมือนกับจิตใต้สำนึกติดต่อกันอย่างไม่รู้ตัว นับว่าเป็นศิลป์อันละเอียดอ่อนมากขนาดมนุษย์ด้วยกันพูดกันรู้เรื่องบางครั้งจะให้เขาทำอะไรบางสิ่งบางอย่างตามความประสงค์ของเรายังนับว่ายากอยู่แล้วแต่ม้าเป็นสัตว์โลกต่างประเภทกับมนุษย์พูดให้ม้าทำตามใจเราได้โดยไม่ต่อต้านขัดขืนเลยนับว่าเป็นที่น่าภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการกีฬาที่ผสมกับศิลป์นั้นส่วนใหญ่แล้วบุคคลทั่วไปจะมีความนึกคิดไปในเรื่องกีฬาการแข่งม้าก็มีส่วนถูกอยู่บ้างเพราะเป็นกีฬาเหมือนกัน แต่วิชาการขี่ม้าการกีฬาหมายถึงผู้ที่ขี่ม้าได้กำลังบริหารร่างกายในขณะขี่ม้าได้ฝึกจิตใจให้มีความกล้าหาญอดทน ฝึกให้สามารถตัดสินใจได้อย่างฉับพลันกับปัญหาเฉพาะหน้า ได้ใช้ม้าแสดงกีฬาร่วมเช่น การแสดงกีฬาบนหลังม้า การแสดงกีฬาขี่ม้าข้ามเครื่องกีดขวาง เป็นต้น ดังนั้นการขี่ม้านับว่ามีประโยชน์ต่อผู้ขี่ม้าจะได้รับทั้ง ศิลปะ กีฬา กล้า สง่า เข็มแข็ง รอบคอบ ไปพร้อม ๆ กัน  สำหรับในการศึกษาวิชาการขี่ม้านั้นจะต้องได้รับเรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในขั้นตอนจะเป็นการศึกษาทางภาคทฤษฎีเพื่อนำไปใช้กับภาคปฏิบัติซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจำและนำไปใช้ให้ถูกต้องต่อไป

– ท่าขี่  เมื่ออยู่บนหลังม้า ให้ยกหัวไหล่ตั้งตรงแผ่นหลังแอ่นเล็กน้อยมือทั้งสองข้างจับบังเหียไว้ หากกำลังให้สัญญาณก็ถือไว้ข้างใดข้างหนึ่ง หากอยากทราบว่าสายโกรนยาวพอดีหรือไม่ ให้ดึงเท้าออกจากโกรน ให้ขาทั้งสองข้างห้อยตรง หากท้องโกรนแตะข้อเท้า ก็แสดงว่ายาวกำลังพอดี ปุ่มโคนหัวแม่เท้าทั้งสองข้างกดอยู่ที่คันที่เหยียบ ส้นเท้าหย่อนลงต่ำ ปลายเท้าหันออกเล็กน้อย ต้นขา เข่า และน่องหนีบอานไว้แต่ไม่ต้องแน่นหนักพยายามให้ช่วงขาตอนล่างไพล่ไปด้านหลังเพื่อให้ใบหู หัวไหล่ และส้นเท้าอยู่ตรงกัน

– วิธีบังคับม้า คุณสามารถสื่อสารกับม้าของคุรได้โดยขยับสายบังเหียนเพียงเบาๆและใช้เสียง ขาทั้งสองข้าง และน้ำหนักตัวนำม้าไป หากต้องการสั่งให้เดินไปข้างหน้า ให้ดึงสายบังเหียนจนตึงชั่วครู่  จากนั้นจึงผ่อนและโน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย และใช้ขาทั้งสองข้างหนีบลงไปที่ลำตัวของม้า เมื่อได้จังหวะก้าวเดินตามต้องการแล้วจึงค่อยคลายขาออก เมื่อจะให้ม้าเลี้ยวขวา ให้ดึงสายบังเหียนด้านขวาไว้ ผ่อนสายด้านซ้าย ใช้ขาซ้ายกดลงไปที่ลำตัวม้า ถ้าจะเลี้ยวซ้ายให้ปฏิบัติกลับกัน ส่วนการหยุดหรือชะลอ ให้ดึงสายบังเหียนทั้งสองข้างเข้าหาตัวเบาๆ ถ่ายน้ำหนักตัวลงไปกลับที่ปลายอาน

– การวิ่งเหยาะในเวลาที่ม้าวิ่งเหยาะ ขาหน้าและขาหลังจะยกขึ้นเป็นคู่ตามแนวทแยง  ซึ่งทำให้อาการเคลื่อนที่เป็นไปในลักษณะกระดอนขึ้นลง วิธีขี่ม้าแบบวิ่งเหยาะต้องยกก้นให้ลอยขึ้นจากอานขณะที่ม้ายกขาขึ้นคู่หนึ่ง และลงนั่งเมื่อถึงจังหวะยกขาอีกคู่หนึ่ง ในช่วงที่ยกก้นขึ้นจากอานให้เหยียบโกรนโน้มตัวไปข้างหน้า ยืดเข่าให้ตัวลอยพ้นอาน และหย่อนก้นลงทันที แล้วยกตัวขึ้นใหม่ตามจังหวะ

มิติของการผลิตใหม่ที่เกิดขึ้นในการเล่นพนันม้าแข่ง

ปัจจุบันนี้คนไม่ค่อยรู้เรื่องการแข่งม้า

เพราะไม่มีสื่ออะไรออกไป มวยยังมีทีวีถ่ายทอด ฟุตบอลยังมีการถ่ายทอด แต่ม้านี่ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุน ทั้งที่เสียภาษีมากกว่ามวย มากกว่าฟุตบอล ฟุตบอลมีเสียภาษีที่ไหน ม้าแข่งอย่างเดียวที่มีการเสียภาษี อย่าลืมว่าฟุตบอลก็มีการพนัน วันหนึ่ง 5 คู่ 10 คู่ เงินสะพัดเท่าไรในวงการฟุตบอล ม้าก็เป็นการกีฬาเหมือนกัน และเป็นกีฬาชนิดเดียวที่เสียภาษีให้รัฐ ถ้าหากมีการถ่ายทอดเพียงเที่ยวสองเที่ยวที่สำคัญๆอย่างน้อยที่สุดก็ทำให้คนรุ่นหลังเข้าใจว่ากีฬาแข่งม้าเป็นยังไง ในวงการการพนันทุกประเภทนั้นการแข่งม้าเป็นการพนันที่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด เพราะมีเวลาเปิดปิดสนาม มีเวลาแข่งกำหนดชัดเจน สามารถนับตัวม้าได้ นับตั๋วได้ ไม่เหมือนการพนันอย่างอื่น อย่างเช่นบ่อนกาสิโน ที่ไม่มีขอบเขตควบคุม

เงินหมุนเวียนในสนามแข่งม้าปัจจุบันนี้ลดต่ำลงไปเรื่อยๆ

อาจจะเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจ หรือเขาอาจจะมีอย่างอื่นให้เล่นทั้งหวยบนดินก็ดี ฟุตบอลก็ดี ทำให้จำนวนผู้เข้าชมลดต่ำลงไป อย่างนัดที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันเสาร์ ผู้เข้าชมลดลงมากเหลือเพียงแค่ 9,000 เศษ ซึ่งตามปกติเราจะมียอดผู้ชมในสนามหนึ่งหมื่นคนขึ้นไป เพราะมันตรงกับวันเสาร์ซึ่งตรงกันกับสนามแข่งม้าทั่วประเทศ อันนี้ก็เป็นปัญหาคือว่าทางราชการกำหนดว่าวันพระห้ามแข่งม้า ทีนี้ก็เลยเป็นปัญหาเพราะสนามม้าแต่ละแห่งมาแข่งชนกันในวันเสาร์ เพราะวันอาทิตย์เป็นวันพระ เชียงใหม่ก็แข่งไม่ได้ โคราชก็แข่งไม่ได้ ขอนแก่น ร้อยเอ็ดก็แข่งไม่ได้ พอมาจัดแข่งตรงกันคนก็เลยกระจายไป

ด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตของคนในสังคมปัจจุบันมากยิ่งขึ้นทำให้หลายๆอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปบางอยากอาจจะดีขึ้นแต่สำหรับบางอย่างอาจจะเหมือนมีดสองคมที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียแต่สำหรับเกมการพนันแล้วนับว่ามีผลดีต่อเซียนพนันแต่อาจจะเป็นผลร้ายของสังคมในขณะเดียวกัน ในแง่ที่ว่าดีก็เพื่อความสะดวกสบายของผู้เล่นที่สามารถเล่นได้ง่ายและสะดวกขึ้น แต่ผลกระทบต่อสังคมอาจจะมองว่าเป็นการมอบเมาเยาวชนอะไรทำนองนั้น เพราะมีการเข้าถึงได้ง่ายขึ้นนั้นเอง อย่างเช่นเกมพนันอย่างแทงม้าแข่งออนไลน์ ที่เป็นเกมพนันอีกชนิดหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยเพราะว่าเป็นเกมพนันที่เข้าใจได้ง่าย กติกาการเล่นเป็นที่คุ้นเคยกันดีนั้นเองโดยการเลือกม้าที่ต้องการวางเดิมพันซึ่งต้องดูเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆประกอบในการตัดสินใจ และประวัติของม้าแต่ละตัว จากนั้นก็เลือกวางเดิมว่าจะแทงม้าในลักษณะใดซึ่งการแทงม้าก็มีความคล้ายคลึงกับการเล่นหวย

เหตุผลที่การพนันม้าแข่งสามารถดำรงอยู่ได้ในสังคมไทย

เกิดจากปฏิบัติการช่วงชิงการนิยามความเป็นพื้นที่สนามม้าขึ้นใหม่ เพื่อต่อรองกับแรงกดดันทางสังคมที่เห็นได้ชัดเจนคือการสร้างกฏเกณฑ์ ระเบียบ และโครงสร้างการจัดการในพื้นที่สนามม้า ที่ส่งผลให้เกิดโครงร่างทางความคิดในการเล่นพนันของผู้คนกลุ่มหนึ่งที่ขนานนามตนเองว่า แฟนอาชา ยิ่งกว่านั้นปฏิบัติการของแฟนอาชายังแสดงถึงกระบวนการผลิตซ้ำพฤติกรรมการพนันม้าแข่ง ภายใต้การเรียนรู้โลกทัศน์และกรอบระเบียบปฏิบัติต่างๆของการพนัน นอกจากนั้นปฏิบัติการยังแสดงให้เห็นถึงมิติของการผลิตใหม่ที่เกิดขึ้นในการเล่นพนันม้าแข่ง ที่ผู้ร่วมเล่นการพนันม้าแข่งต่างก็ตีความและฉวยใช้กิจกรรมการพนันม้าแข่งไปในรูปแบบหรือแนวทางที่ตนเองได้รับประโยชน์สูงสุด